ในขณะที่การใช้งานอุปกรณ์พกพาเพิ่มขึ้นและบริษัทต่างๆ ได้พัฒนาเว็บไซต์ที่เหมาะกับอุปกรณ์พกพาเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด ในปีที่ผ่านมานักพัฒนาซอฟต์แวร์ของ Google ได้สร้าง Progressive Web Apps ซึ่งเป็นประสบการณ์เชิงโต้ตอบที่มีคุณสมบัติของทั้งเว็บไซต์และแอพมือถือ อเล็กซ์รัสเซลวิศวกรซอฟต์แวร์ของ Google กล่าวว่า Progressive Web Apps “ทำให้เส้นแบ่งระหว่างเนื้อหาเว็บและแอพต่างกัน แต่พวกเขายังคงความแข็งแกร่งของเว็บ” โดยหลักของ Progressive Web Apps ก็คือการให้มีประสบการณ์การใช้งานเหมือนแอพในเบราว์เซอร์มือถือ ผู้ใช้สามารถตอบโต้กับหน้าเว็บมือถือที่มีรูปลักษณ์ความรู้สึกและฟังก์ชั่นการใช้งานของแอปรวมถึงการแจ้งเตือนแบบพุช ในการเข้าถึงแบบออฟไลน์และความสามารถในการเพิ่มทางลัดไปยังหน้าจอหลักของอุปกรณ์ของผู้ใช้ แล้ว PWA ทำงานอย่างไร ? Progressive Web Apps (PWA) ได้รับการออกแบบให้มีความเร็วในการโหลดสูงและประมวลขั้นตอนต่าง ๆ ที่จำเป็นในการเข้าถึงข้อมูลหรือฟีเจอร์บางประเภทได้โดยตรงจากเว็บไซต์ มีระบบ AI ปัญญาประดิษฐ์ในการรวบรวมพฤติกรรมของผู้ใช้และการตั้งค่าเพื่อให้แอปสามารถมอบประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น แอพเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้จากแท็บเบราว์เซอร์และไม่จำเป็นต้องติดตั้งหรือดาวน์โหลดใด ๆ ผู้ใช้สามารถ “สร้างความสัมพันธ์” กับแอพโดยโต้ตอบกับมันบ่อยครั้งและจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ในทางกลับกันแอพจะส่งการแจ้งเตือนแบบพุชเพื่อให้ง่ายต่อการมีส่วนร่วมอีกครั้ง เมื่อ Progressive Web App เผยแพร่ออนไลน์จะสามารถเชื่อมโยงได้อย่างสมบูรณ์และปรับใช้กับโฮสต์ที่รองรับ HTTPS แอพจะทำงานเมื่อผู้ใช้ออนไลน์หรือออฟไลน์โดยใช้ข้อมูลที่ถูกแคชเมื่อผู้ใช้ออนไลน์ก่อนหน้านี้ ข้อดีของ PWA นั้นเป็นสิ่งที่สามารถเสิร์ฟ experience…
Read Moreบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก 10 อันดับแรกเขาเริ่มอาชีพที่น่าทึ่งได้อย่างไร อันดับ 1 Jeff Bezos มูลค่าสุทธิ: $ 131 พันล้าน บริษัท : ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Amazon และ Blue Origin อายุ: 54 หลังจาก Jeff ได้ทำงานทำงานเป็นพ่อครัวในภาคฤดูร้อนที่ McDonald’s งานแรกของ Jeff ที่เรียนอยู่ที่วิทยาลัยคือการเริ่มกิจการโทรคมนาคมที่เรียกว่า Fitel ซึ่งเขาเป็นพนักงานคนที่ 11 เขาทำงานในการดีบักรหัสจากนั้นได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้าฝ่ายพัฒนาและผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้า อันดับที่ 2 Bill Gates มูลค่าสุทธิ: $ 91.3 พันล้าน บริษัท : ผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft และมูลนิธิ Bill and Melinda Gates อายุ: 63 ในปี 1975…
Read Moreการทำให้ google เจอหน้าเพจคุณง่ายขึ้น บทความนี้ก็จะ advance หน่อยนะครับ เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มสนใจ SEO มาบ้างแล้ว และกำลังพบกับปํญหาของการที่ google ไม่ยอมจัดอันดับหน้าเว็บไซต์ให้คุณสักที ค้นหน้าแรกก็แล้ว (ด้วยความหวัง) หน้าสองก็แล้ว (ความหวังยังมีอยุ่) หน้าสามก็แล้ว (เอ้ะ ทำไมไม่มีเว็บไซต์เรา) หน้าสี่ จนถึงหน้า สิบ จนความหวังหายไปแล้ว บทความนี้จะมีศัพท์เทคนิคเป็นบางส่วน เพื่อช่วยให้คุณหรือใครที่เป็นเจ้าของเว็บไซต์กำลังประสบปัญหาการที่ google ไม่ขึ้นหน้าเพจของคุณ ปัญหา Google ไม่ยอม Index หน้าเว็บไซต์ของคุณเป็นปัญหาปวดตับหรือหนักใจเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อเราทำเว็บไซต์ขึ้นมาสักเว็บเราก็ต้องการให้มีการค้นหาบนหน้ากูเกิลเกิดขึ้น วิธีโดยทั่วไป หรือวิธีการแก้ไขเบื้องต้นก็คือการ submit หน้าเว็บไซต์เรากับกูเกิล ซึ่งการ submit เว็บไซต์กับกูเกิลมีประโยชน์อย่างมากแต่เราไม่จำเป็นที่จะต้อง submit บ่อยๆ หรือทุกหน้า เพราะกูเกิลมีรอบของการตรวจดูอยู่แล้ว แต่ในบทความนี้จะทำให้เว็บไซต์ของคุณ index ได้ง่ายขึ้นนอกจากการบอกกับกูเกิลเพียงอย่างเดียว (ผ่านการ submit) วิธีก็คือการตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกหน้าในเว็บไซต์คุณสามารถเข้าถึงได้โดยลิงค์จากหน้าค้นหาอื่น โดยการที่เว็บไซต์คุณมีลิ้งค์อ้างอิงที่เป็นทั้งข้อความหรือรูปภาพ คุณควรที่จะแอตทริบิวต์ alt รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหน้าเป้าหมาย ลิงก์ที่รวบรวมข้อมูลได้คือ…
Read Moreอะไรที่ทำให้คนส่วนมาก กดเข้าไปใน โฆษณาของคุณ เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ในปัจจุบันนี้ คนส่วนใหญ่ก็ยังคงไม่เห็นความแตกต่างระหว่างโฆษณาที่ตั้งใจหรือโฆษณาที่เป็นธรรมชาติในการค้นหา เพราะความที่ดูไม่แตกต่างและการที่คนส่วนมากยังไม่รู้ว่าแอดที่เราเห็นเสียเงินหรือไม่ และอะไรที่ทำให้ลูกค้าเหล่านั้นเกิดความรู้สึกที่อยากจะคลิกโฆษณาของเรา ผมมีสถิติที่ได้จาก Clutch มาฝากครับ (บริษัท Cluch เป็นบริษัทดังด้านการสำรวจและวิจัยสถิติ) โดยผลสำรวจตรงนี้ได้สำรวจระหว่าง โฆษณาของ google, bing, youtube และ amazon ครับ ผลสำรวจได้สำรวจจำนวนประชากร 506 คนในพฤติกรรมการคลิกลิ้งก์ที่เป็นโฆษณา พบว่า โฆษณาที่มีข้อความดึงดูดหรือให้ข้อมูลทันทีในสิ่งที่เขาต้องการตั้งแต่แรกเห็น จะทำให้เขาเกิดการคลิกในโฆษณาเหล่านั้นมากที่สุด ฟังดูอาจจะง่ายเกินไป และเป็น common sense ของนักขายอยุ่แล้วที่ต้องบอกข้อมูลที่เราต้องการขายหรือโปรโมชั่น แต่กลับมาตรงพื้นฐานที่ว่า เราได้ให้อะไรในสิ่งที่เขาอยากจะได้ เช่น ถ้าเราจะขาย พัดลม แบบ flash sale เลยนะ ลดสัก 60 % เราก็จะตั้งโฆษณาที่สื่อถึงราคาล้วน ๆ เพราะลูกค้าจะไม่ได้สนใจกับรุ่นของพัดลมใหม่ๆ แต่ในใจของลูกค้า ณ ตอนนั้นจะมุ่งเน้นในเรื่องของราคามากกว่า โดยคำที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้คือคำว่า “ลดราคา” ,“ลดล้างสต้อก”, สินค้า…
Read Moreแชร์ประสบการณ์สอบ Google Certificate แชร์ประสบการณ์สอบ Google Certificate และความ หฤโหดของข้อสอบ บทความนี้จะแชร์ประสบการณ์ล้วนๆ เลยครับ จริงๆ แล้ว ความหฤโหดของข้อสอบไม่ใช่อะไรหรอก ด้วยความที่จำนวนข้อสอบเยอะจริง ๆ จะทำให้เราเกิดความล้าได้ และ ข้อสอบก็ไม่ใช่ง่ายซะทีเดียว ผมจะขอแชร์ประสบการณ์การสอบ Google certificate ที่ผ่านมา (ในปี 2018) นะครับ ขอเกริ่นเรื่อง Google Certificate กันก่อน เริ่มเรื่องก็คือ บริษัท Google องค์กรระดับโลก ได้มีการออกใบรับรองเพื่อรองรับกับผู้ที่มีคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญ ทั้งในองค์กรและนอกองค์กร โดยนอกองค์กร ก็จะมีการแยกระดับของพาร์ทเนอร์ออกไปอีก นั่นคือ Google partner จะแบ่งเป็น 2 ระดับ (อัพเดท ณ วันที่ 21/12/2018) นั่นคือ Google partner กับ Google Premier Partner แน่นอนการได้เป็นสองระดับนี้จะระดับใดระดับหนึ่งคุณก็จะได้สิทธิในการเข้าเรียนกับกูเกิล…
Read Moreนี่คือทิศทาง SEO ในปี 2019 ที่ผมได้รวบรวมมา เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ และการดูกระบวนการที่จะเกิดขึ้นในยุคใหม่นี้ กลยุทธ์เหล่านี้จะถูกพิจารณามากขึ้นในปี 62 มีอะไรบ้างและคุณควรให้ความสำคัญกับอะไรบ้าง เรามาดูกัน 1.RankBrain & UX Signals ประสบการณ์ผู้เข้าชม จะมีความสำคัญมาก ๆๆๆๆๆๆ ในปีนี้ คุณมั่นใจหรือยังว่าทำเว็บไซต์ที่เป็นมิตรกับคนที่เข้ามาดูเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งจริงๆ แล้ว google ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ๆ และให้มานานแล้ว และก่อนหน้านี้ google ก็ได้ประกาศในส่วนของ Rankbrain (เทคโนโลยีภูมิปัญญาประดิษฐ์) ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาอันดับเว็บไซต์เช่นเดียวกัน RankBrain คืออะไร? ดูข้างท้ายนะครับ 2. Google ให้ความสำคัญกับการค้นหาธรรมชาติอย่าง Answer Boxes, Ads, Carousels, มากขึ้น 3. เนื้อหา ยิ่งเขียนเยอะ และรู้ลึกยิ่งได้เปรียบ เป็นเพราะเมื่อก่อนนี้ Google ได้มองหรือวิเคราะห์แค่ HTML ของหน้าเว็บเพื่อดูจำนวนครั้งที่คุณใช้คีย์เวิร์ด พูดง่ายๆ…
Read More“ทางอเมริกาเหนือมีสถิติที่น่าสนใจของการขับเคลื่อนทางมือถือในการทำธุรกรรมด้าน eCommerce มีการเติบโตถึง 16% ในปี 2018 มูลค่ามากกว่า 5 แสนล้านดอลล่าร์” ใกล้หมดปี 2018 แล้ว มีร้านค้าออนไลน์ที่ต้องปรับตัวในคุณลักษณะใดบ้างเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ปี 2019 หลัก 3 ข้อที่ต้องปรับตัวของร้านค้าออนไลน์เพื่อเข้าสู่ยุค E-Commerce มีอะไรบ้าง ร้านอีคอมเมิร์ชควรสัมผัสลึกได้ด้วยตา โดยใช้ภาพ “ภาพ” คือวิธีที่ดีที่สุดในการนำเสนอสินค้า ดังนั้น คนที่คิดจะซื้อต้องสามารถมองลึกไปในทุกรายละเอียด เพื่อให้เขาได้ตัดสินใจซื้อได้ โดยไม่ผิดหวังในภายหลัง อุปสรรคคือ พวกเขามักไม่แน่ใจว่า ภาพกับของจริง ๆ ที่จะได้จะเหมือนกันไหม โดยเฉพาะในหมวดสินค้าระดับหรู เนื่องจากพวกเขาไม่ได้สัมผัสสินค้านั้น การนำเสนอด้วยภาพที่มีคุณภาพสูงในมุมมองต่าง ๆ ให้มากที่สุดเท่านั้นที่จะเอาชนะความลังเลได้ ดังนั้นการโพสต์ภาพให้ดูน่าเชื่อถือ และละเอียดชัดๆจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นร้านค้าออนไลน์ของคุณ ควรปรับในเรื่องการแสดงภาพดังนี้ 1. ทำให้ภาพซูมได้และแน่ใจว่าใช้ภาพคุณภาพสูงพอในการขยายได้ โดยที่ไม่เสียเวลาในการดาวน์โหลดนาน (หากโหลดนานจะส่งผลให้อัตราการคลิกลดลงถึง 39%) 2. ผู้ขายควรใช้วิดีโอสาธิต หรือ demo video เพื่อโชว์สินค้า ซึ่ง 52% ของคนที่ได้เห็น บอกว่าวิดีโอช่วยให้พวกเขามั่นใจในการตัดสินใจซื้อมากขึ้น เพราะดูสมจริงเหมือนลองจริง 3.…
Read Moreเทคนิค SEO แบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ ๆ : SEO หมวกขาว – เทคนิคที่เครื่องมือค้นหาแนะนำเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบที่ดี Black Hat SEO – เทคนิคที่เครื่องมือค้นหาไม่อนุมัติและพยายามลดผลกระทบ เทคนิคเหล่านี้เรียกว่า spamdexing SEO หมวกขาว กลยุทธ์ของ SEO ถือเป็น White Hat หากมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้: 1. สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของเครื่องมือค้นหา 2. ไม่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงใด ๆ 3. เนื้อหาในดัชนีเครื่องมือค้นหาและเนื้อหาถัดไปเป็นไปในทางเดียวกันที่ผู้ใช้จะเห็น 4. คุณภาพหน้าเว็บไซต์ 5. เนื้อหาที่มีประโยชน์บนหน้าเว็บ ในขณะที่ Black hat SEO จะมีผลตรงกันข้ามกับ White hat 1.พยายามปรับปรุงการจัดอันดับที่ไม่ได้รับอนุมัติจากเครื่องมือค้นหาและ / หรือเกี่ยวข้องกับการหลอกลวง 2.การเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้จากหน้าเว็บที่แสดง 3. เปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ไปยังหน้าเว็บที่แตกต่างจากหน้าเว็บที่เครื่องมือค้นหาจัดอันดับ 4. ใช้กลยุทธในการปิดบัง SEO ปิดบังบอท เช่นการให้บริการหน้าเว็บหนึ่งหน้าเพื่อค้นหาของสไปเดอร์ / บอทโดยเฉพาะในขณะที่อีกหน้าเป็นของคนจริงๆ 5. ใช้ข้อความที่ซ่อนอยู่หรือมองไม่เห็นหรือด้วยสีพื้นหลังของหน้าโดยใช้ขนาดตัวอักษรเล็ก ๆ…
Read MoreSEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization คำว่า SEO หมายถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ โดย SEO เป็นเทคนิคที่ได้มาจาก : การออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์เพื่อจัดอันดับได้ดีในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา การปรับปรุงปริมาณและคุณภาพของการเข้าชมเว็บไซต์จากเครื่องมือค้นหา การตลาดโดยการทำความเข้าใจว่าอัลกอริทึมการค้นหาทำงานอย่างไรและสิ่งที่ผู้คนค้นหาได้ ถ้าคุณวางแผนที่จะทำ SEO ขั้นพื้นฐานบางอย่างเป็นสิ่งสำคัญที่คุณเข้าใจว่าเครื่องมือค้นหาทำงานอย่างไร วิธีการทำงานของ Search Engine? มีอะไรบ้าง เรามาดูกัน Crawling – ขั้นตอนการเรียกหน้าเว็บทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ ทำโดยซอฟต์แวร์ที่เรียกว่าซอฟต์แวร์รวบรวมข้อมูลหรือแมงมุม (หรือ Googlebot) Indexing – กระบวนการสร้างดัชนีสำหรับเว็บเพจที่ดึงข้อมูลทั้งหมดและเก็บไว้ในฐานข้อมูลขนาดใหญ่จากที่ที่สามารถเรียกค้นได้ในภายหลัง Processing – เครื่องมือค้นหาดำเนินการหลายอย่างเพื่อให้ผลลัพธ์การค้นหาดีขึ้นโดยการรวบรวมข้อมูล ,การจัดทำดัชนี เมื่อมีคำขอการค้นหาปรากฏขึ้นเครื่องมือค้นหาจะประมวลผลข้อมูลเช่นเปรียบเทียบการค้นหาในแต่ละคำค้นหาที่ได้จัดทำดัชนีไว้ในฐานข้อมูล Calculating Relevancy – การคำนวณและประมวลผลของกูเกิล เพราะกูเกิลจะเริ่มคำนวณความเกี่ยวข้องของแต่ละหน้าในดัชนีของตนกับข้อมูลการค้นหา Retrieving Results – ขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการเครื่องมือค้นหาไว้เพื่อเรียกผลลัพธ์ที่ตรงกันให้มากที่สุด โดยทั่วไปวัดจากการแสดงค่าในเบราว์เซอร์ เครื่องมือค้นหาเช่น Google และ Yahoo! มักจะอัปเดตอัลกอริทึมที่เกี่ยวข้องกันหลายร้อยหลายพันครั้งต่อเดือน ดังนั้นเมื่อคุณเห็นการเปลี่ยนแปลงในการจัดอันดับของคุณเกิดจากการเปลี่ยนอัลกอริทึมหรือสิ่งอื่นที่อยู่นอกการควบคุมของคุณ แต่คุณต้องจำเสมอว่า หลักการพื้นฐานของการทำงานของเครื่องมือค้นหาทั้งหมดจะเหมือนกัน แต่จะมีเพียงความแตกต่างเพียงเล็กน้อยระหว่างอัลกอริทึมที่เกี่ยวข้องจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในความเกี่ยวข้องของผลลัพธ์ของการค้นหา อันดับ Search Engine คืออะไร เมื่อคุณค้นหาคำหลักใด…
Read Moreจะทำอย่างไรเมื่อมีผู้อื่นมาก๊อปปี้เนื้อหาในเว็บเรา เป็นเรื่องที่เราเจอกันบ่อยๆ เมื่อมีคนมาก้อปปี้เนื้อหาในเว็บไซต์ของเรา หรือบางทีก็ก้อปหมดแม้กระทั่งข้อมูลการติดต่อ การก้อปปี้เนื้อหา จะทำให้เว็บไซต์ของเราตกอันดับ หากเว็บไซต์ของผู้ที่ก้อปดูดีกว่าเรา แล้วเราควรมีวิธีแก้อย่างไร วิธีในการแก้ไขปัญหานี้ ก่อนอื่นเจ้าของเว็บอย่าลืมแคปหน้าจอในส่วนของเนื้อหาที่คิดว่าซ้ำกัน จะได้เป็นหลักฐานว่ามีการคัดลอกเนื้อหาคุณเกิดขึ้น คุณอาจส่งอีเมลหรือไลน์ เป็นข้อความแจ้ง ผู้คัดลอกอย่างสุภาพ เพื่อให้นำเนื้อหาที่คุณคิดว่าซ้ำออก หากยังไม่สำเร็จ คุณสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ https://www.dmca.com/ เพื่อแจ้งเรื่องดังกล่าวได้ เรื่องนี้จริงๆ แล้ว ทางกูเกิลจะมองว่าเป็นการขโมยความคิด ( plagiarism ) ซึ่งเกิดขึ้นได้บ่อยมาก แต่กูเกิลเขาจะดูวันที่อิงกับความเป็นจริงว่าเว็บไหนมาก่อน และน่าจะเป็นต้นฉบับ ดังนั้นหายห่วงได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าต้องการที่จะแจ้งเรื่องก็จะมีเว็บไซต์ dmca ที่ให้บริการด้านนี้โดยตรงอยู่แล้วครับ
Read More